Moore's Law : ความสามารถ CPU จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุกๆ 18-24 เดือน ดังนั้นราคาจะปรับลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผลประกอบการของบริษัทที่ได้จากผลิตภัณฑ์นั้นลดลงแบบexponential (เทคโนโลยีมาเร็วไปเร็ว) ผลกระทบ คือ ทำให้คนมีงานทำลดลง แต่ก็สามารถให้คนไปทำงานที่ต้องใช้ความสามารถทางด้านอื่นแทนได้ รวมทั้งการเสริมความรู้ในด้านอื่นก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานด้านอื่นได้อีก
Productivity Paradox เป็นความขัดแย้งระหว่าง computer power ที่เพิ่มขึ้น แต่ productivity ที่ได้กลับน้อยกว่า หรือไม่มากเท่าที่คาดหวังไว้ สาเหตุที่เกิดขึ้น ได้แก่
- Productivity gain วัดได้ยากไม่สามารถแสดงผลให้เห็นได้ชัดเจน
- Productivity gain ไป offset กับการลงทุนใน IT ซึ่งทำให้เสียโอกาสในการลงทุนด้านอื่น
- การลงทุนใน IT ใช้ต้นทุนสูง benefit ที่ได้อาจได้ช้าหรือไม่คุ้ม
- เหตุผลอื่น เช่น Legal ทำให้ผลลัพธ์ไปเป็นไปตามที่คาด
ผลจากการลงทุนด้าน IT มี 2 ประเภท คือ
· Direct Impact : ส่งผลทันทีโดยตรง เช่น ลด Cost ในการติดต่อกับ Supplier (ลด Cost เพิ่มกำไร)
- Second Order Impact : อาจได้รับ Market share เพิ่มขึ้นได้ในทางอ้อม, ใช้เป็นจุดแข็งหรือสัมพันธ์กับกลยุทธ์ในการแข่งขัน
Why justify IT investments?
ก่อนการลงทุน CIO ควรจะประเมินและตัดสินใจให้ดีเสียก่อนที่จะลงทุน เนื่องจากทรัพยากรของบริษัทมีจำกัด จึงควรเลือกลงทุนในส่วนที่จำเป็นหรือมีผลประโยชน์มากกว่าก่อน รวมทั้งยังเป็นการช่วยทำให้บรัทมีการใช้จ่ายเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการใช้เงินโดยไม่จำเป็นหรือเกินตัว โดยอาจคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้
- การแข่งขันที่รุนแรง อาจมีความจำเป็นต้องลงทุน
- อาจทำให้ราคาหุ้นขึ้น หากมีการลงทุนใน project ใหญ่ๆ
- ต้องมีการประเมินอย่างสม่ำเสมอ
- การประเมินความสำเร็จของ project อาจนำไปสู่การประเมินโบนัสของพนักงาน
Project ที่ไม่จำเป็นต้อง justify
1. Project ที่ใช้เงินลงทุนน้อยมาก
2. Project นั้นจัดว่าเป็น infrastructure
3. Project นั้นเป็นงานที่นายสั่ง
4. มีข้อมูลไม่เพียงพอในการพิจารณา
The IT Justification Process
- Conduct ROI
- Conduct good research
- Justify, clarify and cost& benefits assumptions
- Risk analysis
- Not to underestimate costs and overestimate benefits
- Commit all partners ex. Vendors
Difficulties in Measuring Productivity & Performance Gains
1. จะวัดและประเมินอย่างไรดี มีทั้งตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงิน บางอย่างเป็น second-order impact ซึ่งวัดยาก อาจแก้ปัญหาโดยใช้ KPI
2. Time lag คือ productivity เกิดขึ้นช้า ทำให้วัด ณ ขณะนี้ไม่ได้ อาจแก้โดยวัดหลังจากที่ระบบ run ไปแล้ว หรือวัดเป็น period
3. วัดความสัมพันธ์ได้ยาก ไม่รู้ว่าตรงไหนที่มีผลต่อกัน
Intangible benefits
ยากที่จะบอกเป็นตัวเงิน เช่น สินค้าออกสู่ตลาดเร็วขึ้น, ความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งการจัดการกับ intangible benefit สามารถทำได้โดยประเมินคร่าวๆถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น หรือใช้วิธีอื่น ดังต่อไปนี้
- Think broadly and softly มองหา benefit อื่นๆ เช่น ลูกค้ามีความซื่อสัตย์กับองค์กรมากขึ้น
- Pay your freight first มองผลประโยชน์ระยะสั้น สนใจอันที่ได้ชัวร์
- Follow the unanticipated ให้เปิดใจในการมอง เปิดโอกาสให้คนอื่นช่วยคิด เช่น เลย์ ให้คนช่วยคิดสูตรให้
Costing IT Investment
Fix costs - พยายามรักษา fixed costs(Harrdware, software, etc.)ให้อยู่ในระดับเท่าเดิม
Transaction costs:
- Search Information ลูกค้าย่อมต้องการรู้จักสินค้าและผู้ผลิตสินค้า , ผู้ผลิตสินค้าต้องทำความเข้าใจด้านกฎหมาย,ต้นทุน และความต้องการของลูกค้า
- Negotiation
- Decision ผู้ซื้อหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจซื้อ, ผู้ขายต้องตัดสินใจว่าจะขายลูกค้าคนไหนหรือไม่ขายเลย
- Monitoring ต้องดูว่าหลังจากซื้อสินค้าแล้ว ยังมีบริการที่ดี และ คุณภาพมีสินค้าที่มีคุณภาพเหมือนเดิม
Revenue models generated by IT&web
- sales รายได้จากการขาย เช่น เปิด e-commerce เอง
- transaction fees เช่น e-bay จะได้เงินส่วนหนึ่งตอนที่มีการซื้อขายสินค้ากันใน web
- subscription fees เช่น ต้องการใช้งานแบบ premium ก็ยอมจ่ายเงินเพิ่ม
- advertising fees เช่น google ได้ค่าโฆษณา
- affiliate fees เกิดจากการเอา banner มาแปะบน web เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าโดยคลิกผ่าน banner ของเรา ก็จะได้เงิน
Cost Benefit Analysis
· Development Costs : ค่าใช้จ่ายในการพัฒนา จ้างคนมาพัฒนาระบบ
- Setup Cost : ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง
- Operation Costs : ค่าใช้จ่าย ค่ากระดาษ ค่าไฟ
Benefit - จะรวมทั้งประโยชน์ที่เป็นตัวเงิน เช่น รายได้ และประโยชน์วัดไม่ได้เป็นตัวเงิน เช่น การบริการที่ดีขึ้น,ความพึงพอใจของลูกค้า, Survival(เช่นธนาคารต้องมีตู้ATM) และ ความจำเป็นในการพัฒนาความเชี่ยวชาญภายในองค์กร
Cost - Production Function , Transaction Cost และ Administrative Cost ถ้ามี EC จะช่วยทำให้ต้นทุนลดลง ทำให้ บริษัทที่มี EC มักจะมี Richness มากกว่าบริษัทที่ไม่มี รวมไปถึงต้นทุนวัดไม่ได้เป็นตัวเงิน เช่น Reduced employee morale, lost productivity, lost customers or sales
โดยที่สำหรับ Regular Product แรกๆต้นทุนจะสูง ต่อมาจะลดลงเพราะมี economy of scale และจะสูงขึ้นอีกเพราะไม่สามารถลดต้นทุนได้แล้ว แตกต่างจาก digital product ที่เมื่อต้นทุนลดลงแล้วจะลดลงเลย
Cash Flow Forecasting ประเมินตัวเงินที่คาดว่าจะได้ จะมีรายรับรายจ่ายเกิดขึ้นเมื่อไร การคาดการณ์future cash flows โดยปกติจะ ignore the effects of inflation
Cost-Benefit Evaluation Techniques
1. Net profit ข้อเสียงคือไม่คำนึงถึงผลตอบแทนแต่ละปี ไม่คำนึงถึงค่าเงินตามเวลา
2. Payback Period ไม่มีว่ามี Net Profit เท่าไร
3. Return on investment (ROI)
4. Net present value(NPV) ความยากอยู่ตรงที่จะเลือก discount rate เท่าไร เช่นต้องไปกู้เงินมาเท่าไร (MLR+/-)
5. Interest rate of return (IRR) มองหาจุดที่ NPVเท่ากับ 0 วัดProfitability ได้ดีกว่า NPV เพราะNPV ไม่ได้เทียบเป็น percentage สามารถใช้ excel คำนวณได้
การเลือกใช้เครื่องมือ ต้องเลือกใช้ตามความเหมาะสม เช่น เราเน้นลงทุนในโครงการที่ได้ผลตอบแทนเร็ว เพราะฉะนั้นอาจใช้ Payback Period
TCO : total cost of ownership
Cost includes : acquisition, operations and control บางทีเอามาวิเคราะห์คู่กับ TBO แล้วดู payoff ว่าเป็นยังไง มีตัวอย่างการคำนวณ TCO
Benchmarks วัดในเชิง Objective เทียบกับ Industry, efficient performers จะเปรียบเทียบกับได้เราต้องวัดด้วยหน่วยเดียวกัน
Balanced scorecard method
มองผลทางด้านอื่นนอกจากการเงินด้วย เช่น business process, learning and growth เกี่ยวข้องกับ goalขององค์กรยังไง
1. Financial เพิ่มกำไร รายได้ ลดต้นทุน
2. Customer ลูกค้าได้ความพึงพอใจเพิ่มขึ้นไหม รักษาฐานลูกค้าได้หรือไม่
3. Internal Process เพิ่ม Productivity ไหม คุณภาพดีขึ้นไหม ลดเวลาในการทำงานหรือไม่
4. Learning and Growth skillของพนักงานดีขึ้นไหม อัตราการลาออกของพนักงาน Turnover
E-Procurement Metrics ทำให้ purchase order processing time ลดลง เช่นเลือก suppliers, ส่ง order, ออก P.O., ส่งสินค้าได้ตรงเวลา ,ลูกค้าปฏิเสธการรับสินค้าลดลง
CRM เมื่อทำแล้ววิเคราะห์ว่าผลการจากทำ Marketing ดีขึ้นหรือไม่อย่างไร
E-commerce - เป็น web-based systems แต่ว่าต้องลงทุนเพราะว่าเป็นการสนับสนุนกลยุทธ์ขององค์กร ไม่ใช่มีเว็บเพื่อเป็นไปตาม trend
Where costs of IT investment go?
ชาร์จที่บัญชี Overhead หรืออาจไปชาร์จที่ผู้ใช้ ชาร์จตามการใช้งาน เรียกว่า chargeback ทำให้รู้ข้อมูลการใช้งาน ว่าช่วงไหน peak จะได้จัดการบริหารได้ถูกต้อง
Failure & Runaway Project
- ทำ cost benefits analysis ไม่ถูกต้อง หรือ เกิดจาก Economic issues
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงถ้าเราเป็นผู้บริหาร Managerial Issues
- ปัจจุบันธุรกิจถูกขับเคลื่อนด้วย IT เป็นสำคัญ เช่น google
- ความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของ technology
- เมื่อก่อนผู้บริหารจะสนใจเพียง tangible benefit แต่ทุกวันนี้ควรสนใจที่ intangible benefit ด้วย
- ตัดสินใจว่าควรจะ chargeback หรือไม่ ซึ่งบางครั้งอาจจะ provide incentive ไปด้วย
- วิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งหมด
- เลือกใช้เครื่องมือในการวัดผล
- คนที่จะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจลงทุน project ต่างๆ
ภวิกา โควศุภมงคล 5202115084
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น